บทที่
2 เครือข่ายคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต
1. เครือข่ายคอมพิวเตอร์
การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์ในอดีตจะใช้วิธีบันทึกข้อมูลลงในแผ่นดิสก์และส่งไปยังปลายทางโดยอาศัยผู้ส่งดิสก์ เรียกการติดต่อสื่อสารแบบนี้ว่า เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีคนเป็นสื่อ รับ-ส่ง
ข้อมูล
1.1. ความหมายและองค์ประกอบของเครือข่ายคอมพิวเตอร์
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (computer net-work) หมายถึง
การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงเข้าด้วยกันโดยใช้สื่อกลางต่างๆ เช่น
สายสัญญาณ คลื่นวิทยุ เป็นต้น
เพื่อทำให้สามารถสื่อสาร
แลกเปลี่ยนข้อมูลและใช้ทรัพยากรร่วมกันไก้
เครือข่ายคอมพิวเตอร์สามารถแบ่งออกได้
6 ประเภท ดังนี้
1. เครือข่ายเฉพาะที่ หรือแลน (local area network : LAN)
2. เครือข่ายนครหลวง หรือแมน (metropolitan area network : MAN)
3. เครือข่ายบริเวณกว้าง หรือแวน (wide area network : WAN)
4. เครือข่ายภายในองค์กร หรืออินทราเน็ต (intranet)
5. เครือข่ายภายนอกองค์กร หรือเอ็กทราเน็ต
(extranet)
6. เครือข่ายอินเทอร์เน็ต (internet)
เครือข่ายคอมพิวเตอร์มีองค์ประกอบพื้นฐาน
2 ส่วนหลัก คือ องค์ประกอบด้านฮาร์ดแวร์ และองค์ประกอบด้านซอฟต์แวร์
โดยองค์ประกอบด้านฮาร์ดแวร์ หมายถึงอุปกรณ์ที่ใช้งานและเชื่อมต่อภายในเครือข่าย
เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ แป้นพิมพ์
สายสัญญาณ เป็นต้น
ส่วนองค์ประกอบด้านซอฟต์แวร์ หมายถึง
ระบบปฏิบัติการ หรือโปรแกรมต่างๆ ที่ใช้สนับสนุนการทำงานและให้บริการด้านต่างๆ
เพื่ออำนวย ความสะดวกให้แก่ผู้ใช้ให้สามารถติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่ายได้
1.2
การเลือกใช้ฮาร์ดแวร์ของระบบเครือข่ายขนาดเล็ก
การติดตั้งเครือข่ายขนาดเล็ก
มีจุดประสงค์เพื่อใช้งานภายในบ้านหรือในสำนักงาน ขนาดเล็ก
เพื่อให้สามารถใช้ทรัพยากรร่วมกันได้ เช่น ข้อมูล เครื่องพิมพ์ สแกนเนอร์ เป็นต้น
1. อุปกรณ์ในระบบเครือข่ายขนาดเล็ก มีหลายชนิด
ได้แก่ การ์ดแลน ฮับ สวิตซ์ โมเด็ม เราเตอร์ สายสัญญาณ
ซึ่งอุปกรณ์แต่ละชนิดมีคุณสมบัติแตกต่างกันดังนี้
1.1. การ์ดแลน (LAN card) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่รับส่งข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปสู่
คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งโดยผ่านสายแลน
1.2. ฮับ (hub) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เสมือนกับชุมทางข้อมูล
มีหน้าที่เป็นตัวกลางคอยส่งข้อมูลให้คอมพิวเตอร์ในเครือข่าย
และเป็นตัวกระจายสัญญาณ
1.3. สวิตช์ (switch) เป็นอุปกรณ์รวมสัญญาณเช่นเดียวกับฮับ
แต่ต่างจากฮับ คือ
การรับส่งข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งนั้นจะไม่กระจายไปยังทุกเครื่อง
เนื่องจากสวิสต์จะรับกลุ่มข้อมูลมาตรวจสอบก่อนว่าเป็นข้อมูลของเครื่องใด
แล้วจึงนำข้อมูลนั้นๆส่งไปยังปลายทาง อย่างอัตโนมัติ
1.4. โมเด็ม (modem) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่แปลงสัญญาณเพื่อให้สมมารถส่งผ่านสายโทรศัพท์หรือใยแก้วนำแสงได้
ทำให้ส่งสัญญาณได้ไกล
1.5. อุปกรณ์จัดเส้นทางหรือเราเตอร์ (router) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเชื่อมโยงเครือข่ายหลายๆเครือข่ายเข้าด้วยกัน
การส่งข้อมูลจึงมีหลายเส้นทาง
และทำหน้าเลือกเส้นทางที่เหมาะสมที่สุดในการส่งผ่านข้อมูล
เพื่อเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และมีราคาสูง
1.6. สายสัญญาณ (cable) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการรับส่งข้อมูล
มีหลายแบบเช่นสายโคแอกซ์ (coaxial
cable) สายใยแก้วนำแสง
(fiber optic cable)
2. การเชื่อมต่อระบบเครือข่ายขนาดเล็ก
การเชื่อมต่อระบบเครือข่ายขนาดเล็กที่ใช้กันในปัจจุบันมี
2 แบบหลักๆ คือ การเชื่อมต่อเครือข่ายระยะใกล้ การเชื่อมต่อเครือข่ายระยะไกล
2.1. การเชื่อมต่อเครือข่ายระยะใกล้ หากมีคอมพิวเตอร์ในระบบเครือข่ายไม่เกินสองเครื่อง
อุปกรณ์ในระบบเครือข่ายนอกจากเครื่องคอมพิวเตอร์แล้ว
ยังต้องมีการ์ดแลนและสายสัญญาณ โดยไม่ต้องใช้ฮับและสวิตช์
เพราะถ้ามีคอมพิวเตอร์สองเครื่อง ก็สามารถเชื่อต่อโดยใช้สายไขว้ (cross line)
การตัดสินใจซื้อ ฮับและสวิตซ์
มาใช้จะต้องคำนึงถึงเรื่องการขยายระบบเครือข่ายในอนาคตด้วย
ควรเลือกฮับและสวิตซ์ที่สามารถรับรองจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ได้เท่ากับจำนวนที่คาดว่าจะมีในอนาคต
2.2. การเชื่อมต่อเครือข่ายระยะไกล จากข้อกำจัดของเครือข่ายที่ใช้สายแลนที่ไม่สามารถเดินสายให้มีความยาวมากกว่า
100 เมตรได้
จึงต้องหาทางเลือกสำหรับระบบเครือข่ายระยะไกล ดังนี้
- แบบที่ 1 คือ ต้องติดตั้งเครื่องทวนสัญญาณ (repeater) ไว้ทุกๆระยะ 100 เมตร
- แบบที่ 2 คือ
ใช้โมเด็มหมุนโทรศัพท์เข้าหากันเมื่อต้องการเชื่อมต่อ เละเมื่อเสร็จสิ้น
ธุรกิจแล้วก็ยกเลิกการเชื่อมต่อ แต่ความเร็วที่ได้จะได้แค่เพียงความสามารถของสายโทรศัพท์
- แบบที่ 3 คือ
เป็นเทคโนโลยีระบบเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในปัจจุบันสายสัญญาณที่เลือกใช้
คือสายใยแก้วนำแสง สามารถส่งข้อมูลได้ระยะทางไกลและมีความเร็วสูง รวมถึงความปลอดภัยของข้อมูล
- แบบที่ 4 คือ ใช้จุดเชื่อมต่อแบบไร้สาย (wireless lan) เป็นการเชื่อมต่อโดยใช้สัญญาณวิทยุทางอากาศแทนการใช้สายโทรศัพท์
เพื่อลดปัญหาจากการใช้สายสัญญาณ เหมาะสำหรับการติดตั้งในพื้นที่ที่มีขนาดจำกัด
- แบบที่ 5 คือ เทคโนโลยี G.SHDSL ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีตะกูล DSL (Digital Subscriber Line) เป็นเทคโนโลยีโมเด็มที่ทำให้คู่สายทองแดง
กลายเป็นสื่อสัญญาณดิจิทัลความเร็วสูงโดยใช้เทคนิคการเข้ารหัสสัญญาณข้อมูล
ในย่านความถี่ที่สูงกว่าการใช้งานโทรศัพท์โดยทั่วไป
ทำให้สามารถส่งข้อมูลในขณะเดียวกันกับการใช้งานโทรศัพท์ได้
- แบบที่ 6 คือ เทคโนโลยีแบบ ethernet over VDSL เป็นเทคโนโลยีระบบเครือข่ายแบบล่าสุดที่สามารถจะติดตั้งใช้งานได้เอง
มีต้นทุนต่ำโยสามารถเชื่อมต่อกับสายโทรศัพท์ทั่วไป
1.3. การเลือกใช้ซอฟต์แวร์ของระบบเครือข่ายขนาดเล็ก
สามารถเลือกใช้ระบบปฏิบัติการแบบเครือข่าย( Network OS ) เป็นระบบปฎิบัติการสำหรับออกแบบและจัดการงานด้านการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ภายในเครือข่ายให้สามารถใช้ทรัพยากรร่วมกันได้
ปัจจุบันระบบปฏิบัติการเครือข่ายจะใช้หลักการประมวลผลแบบไคลเอนต์เซิร์ฟเวอร์
คือการจัดการข้อมูลและโปรแกรมทำงานอยู่บนเครื่องเซิร์ฟเวอร์และส่วนประกอบอื่นๆของระบบปฎิบัติการเครือข่ายจะทำงานอยู่บนเครื่องไคลเอนด์
เช่นการประมวลผล การติดต่อกับผู้ใช้ เป็นต้น
ปัจจุบันซอฟต์แวร์สำหรับระบบเครือข่ายขนาดเล็ก มีให้เลือกใช้งานหลายโปรแกรม เช่น
1. ระบบปฏิบัติการลินุกซ์ เซ็นโอเอส (Linux community enterprise operating
system)
นิยมเรียกย่อว่า CentOS ซึ่งช่วยประหยัดงบประมาณขององค์กร
เนื่องจาก CentOS เป็นซอฟแวร์เปิดเผยโค้ด (open source software) ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดโค้ดไปใช้่งานโดยไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์
2. ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ (Windows server) ปัจจุบันถูกพัฒนาเป็น Windows Server 2008
ออกแบบเพื่อสนับสนุนระบบเครือข่าย แอพพลิเคชั่นและบริการอื่นๆ
ที่มีความทันสมัยบนเว็บไซต์
และยังเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบปฏิบัติการพื้นฐาน เช่น ระบบเครื่องมือเว็บ
เทคโนโลยีเวอร์ชวลไลเซชัน เพิ่มคุณภาพความปลอดภัย
เครื่องมือจัดการช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากรอื่นๆ ได้มากขึ้น โดยมีคุณสมบัติดังนี้
1. สร่างโครงสร้างพื้นฐานที่มั่นคงสำหรับภาระงานของเซิร์ฟเวอร์
รวมถึงความต้องการด้านแอพพลิเคชันต่างๆด้วย
2. เวอร์ชวลไลเซซั่น (virtualization) เป็นการสร้างระบบเสมือนจริงที่มีรากฐานจากระบบ
hypervisor ช่วยให้สามารถรวมเซิร์ฟเวอร์และใช้งานฮาร์ดแวร์ได้อย่างเต็มที่
3. มีระบบจัดการและดูแลเว็บ
และแอพพลิเคชันที่ได้รับการพัฒนามากขึ้น
4. ระบบความปลอดภัย
ได้รับการพัฒนาให้มีความทนทานมากขึ้น พร้อมทั้งผสานการใช้เทคโนโลยีด้าน IDA หลายชิ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น